โครงการสานสัมพันธ์และส่งเสริมองค์ความรู้สุขภาพพึ่งตน ณ ชมร. เชียงใหม่

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 คณะกรรมการสาขาพรรคสัมมาธิปไตย จ.เชียงใหม่ คณะทำงานของพรรค และญาติธรรมชาวอโศก ร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์สมาชิกพรรคสัมมาธิปไตยและส่งเสริมองค์ความรู้สุขภาพพึ่งตน ณ ชมรมมังสวิรัติแห่งประเทศไทย (ชมร. เชียงใหม่) ตามนโยบาย “ชีวิตสุขภาพดี” และนโยบาย “สร้างคนดีสู่สังคม” ของพรรคสัมมาธิปไตย

มีจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมร่วมบำเพ็ญ จำนวน 7 ท่าน และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 10 ท่าน ซึ่งมีทั้งพี่น้องสมาชิกพรรคสัมมาธิปไตย และลูกค้าของร้าน ชมร. ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นการถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันแบบตัวต่อตัว โดยคณะทำงานนำน้ำสมุนไพรปรับสมดุลไปแบ่งปันเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มีคุณสนทยา กันทะมูล (โฆษกสาขาพรรค จ.เชียงใหม่) และคุณวนิดา ตาคำ สมาชิกพรรคสัมมาธิปไตยได้ทำอาหารปรับสมดุลไปแบ่งปันด้วย

มีสมาชิกพรรคท่านหนึ่งกล่าวว่า ท่านมีความเครียดจากปัญหาสุขภาพ เพราะต้องทำงานกลางคืนและเป็นโรคภูมิแพ้ที่ต้องกินยาประจำทุกวันโดยไม่มีแนวโน้มว่าอาการจะดีขึ้น ที่สำคัญท่านมีความกังวลกับอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไรดี เพราะยังไม่สมารถจัดสรรการงานให้เอื้อกับการดูแลสุขภาพได้ ตอนนี้ท่านไม่ทานเนื้อสัตว์แต่ยังทานไข่ และต้องการไปร่วมค่ายฉลองหนาวที่ภูผาฟ้าน้ำ ในวันที่ 25-30 มกราคม 2567 ส่วนลูกค้าอีกท่านหนึ่งบอกว่า ตนเองเป็นโรคซึมเศร้า แต่วันนี้ไม่มีเวลาฟังบรรยาย จึงได้นัดหมายกันไว้ว่าวันอังคารหน้าจะมาร่วมเรียนรู้ยา 9 เม็ดของแพทย์วิถีธรรมเพื่อนำกลับไปปฏิบัติ

บรรยากาศเป็นกันเอง เต็มไปด้วยความร่าเริง เบิกบาน ผ่องใส เป็นพี่เป็นน้อง และถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน

ที่ ชมร. เชียงใหม่ มีผู้มาสมัครสมาชิกพรรคฯ 1 คน แม้จะน้อยแต่เราก็มีความยินดีที่ได้บำเพ็ญในการสื่อสารนโยบายและเผยแพร่องค์ความรู้ให้ประชาชน

ในวันนี้ทีมรับสมัครสมาชิกพรรคจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมรับสมัครสมาชิกของพรรคสัมมาธิปไตย ณ ชมรมมังสวิรัติแห่งประเทศไทย (ชมร. เชียงใหม่) ครั้งนี้มีผู้สมัครสมาชิกพรรค จำนวน 1 ท่าน ซึ่งเป็นท่านที่ได้เขียนใบสมัครไว้ก่อนหน้าที่ทีมงานจะไปจัดกิจกรรม โดยมีพี่น้องญาติธรรมชาวลานนาอโศกที่มาทำงานที่ ชมร. เชียงใหม่ เป็นผู้รับสมัครไว้ให้

จากเหตุการณ์วันนี้ การอปริหานิยธรรมกันหลังจากเสร็จงาน จึงเป็นประเด็นที่คุณเสริมศรี ชวานิสากุล รองเลขานุการสาขาพรรค จ.เชียงใหม่ เล่าถึง ประโยชน์จากการไปจัดกิจกรรมรับสมัครสมาชิกพรรคในครั้งนี้ที่มีผู้มาสมัครสมาชิกพรรคน้อย ทำให้ตนได้เห็นกิเลสความอยากได้สมาชิกพรรคมากกว่านี้ เพราะรู้สึกว่าไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไปครึ่งค่อนวัน แต่เมื่อเห็นว่าสิ่งที่คิดนั้นมันเป็นทุกข์ (ทุกข์ใจ) ทำให้หมดแรงที่จะทำงาน จึงตั้งสติพิจารณาและบอกกับกิเลสว่า การที่เราได้มาสื่อสารนโยบายและองค์ความรู้ออกไปให้คนได้เข้าใจและนำไปปฏิบัติ นี้ต่างหากคือการบรรลุเป้าหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติหน้าที่นักการเมือง (สส. หรือนักเสียสละ) ความทุกข์ก็หายไป ใจสงบ สบายดีทันที พร้อมจะกลับไปปฏิบัติหน้าที่การงานที่ทำอยู่ด้วยความเบิกบานยินดี

เรื่องที่เกี่ยวข้อง