ถ้าเรายังไม่ตาย เราจะไม่ยอมให้ความชั่วร้ายครอบงำสังคม

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 ดร. ใจเพชร กล้าจน ได้กล่าวในการบรรยายต่อผู้ชุมนุม “Save กระบวนการยุติธรรม” ที่สะพานชมัยมรุเชฐว่า คนชั่วเขาเกิดมาเพื่อทำความชั่ว ทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อครอบครัวของเขาเอง คนชั่วแก้ปัญหาสังคมไม่สำเร็จหรอก เพราะมัวแต่กอบโกยเข้าตัวเองและพวกพ้อง ไม่เคยมีในโลกที่นักการเมือง ข้าราชการไปพินอบพิเทานักโทษที่ไม่ยอมรับโทษ มันน่าเกลียด ไม่รู้จะพูดอย่างไร ทำแบบนี้ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีเลย ไปพบนักโทษเพื่ออะไร ทำไมไม่ไปพบประชาชนที่เดือดร้อน

การที่ข้าราชการบางส่วน นักการเมืองบางท่านพากันไปต้อนรับ ไปเข้าพบนักโทษที่ยังได้รับโทษไม่ครบเวลาตามที่กำหนด แสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวในจิตใจของคนเหล่านั้น มาตรฐานความผิดชอบชั่วดีของสังคมกำลังเป็นปัญหาใหญ่

พรรคสัมมาธิปไตยมีจุดยืนเน้นการสร้างคนให้เป็นคนดี พึ่งตนเองได้และมีน้ำใจแบ่งปันช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อคนดีไปทำการเมือง การเมืองจึงจะดี และเป็นประโยชน์ที่สุดต่อทุกชีวิต เพราะคนดีแท้ ๆ จะไม่โกง ไม่ข่มเหง ไม่เอาเปรียบ ไม่ทำร้าย และไม่ไปพินอบพิเทาคนชั่ว ไม่ส่งเสริมให้คนชั่วนำความชั่วร้ายเข้าครอบงำสังคม ดังนั้น คำตอบที่แท้จริงของการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ คือต้องสร้างคนให้เป็นคนดีแท้ ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

การเมืองมีผลกระทบต่อทุกชีวิต พรรคสัมมาธิปไตยจึงพยายามที่จะเปิดเผยความจริงในการเมืองออกมา ใครทำดีหรือไม่ดีอย่างไร อะไรเป็นประโยชน์ อะไรเป็นโทษ เราจะช่วยกันเปิดเผยออกมาให้มากๆ หมดๆ นำเสนอออกมาเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อทวงคืนความยุติธรรมและความถูกต้องกลับมาสู่สังคมไทย เราพยายามทำหน้าที่นี้ด้วยความพากเพียรสุดกำลัง แต่เราจะไม่มุ่งเอาชนะด้วยความรุนแรง เราจะสู้ด้วยแนวทางการชุมนุมประท้วงแนวใหม่ หรือ Neo Protest อันคือการชุมนุมบนหลักแห่งความสงบ สันติ อหิงสา ซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ คมลึก และแม่นประเด็น เราจะเปิดเผยความจริงไปเรื่อย ๆ แม้จะต้องใช้เวลานานเพียงใดเราก็จะไม่ย่อท้อ เพราะถ้าเรายังไม่ตาย เราจะไม่ยอมให้ “ความชั่วร้าย” เข้าครอบงำสังคมไทยเป็นอันขาด

จางคลาย
23 มีนาคม 2567

เรื่องที่เกี่ยวข้อง