ความจนมันน่ากลัว การแสวงหาความร่ำรวยจากการพนันจึงหอมหวาน เมื่อสังคมไทยและคนไทยบางส่วนเริ่มเห็นว่า “สังคมอุดมการพนันเป็นเรื่องปกติ” บ่อนการพนันเถื่อนมีให้เล่นกันเกลื่อนเมือง แค่เปิดค้นหาในแผนที่กูเกิ้ลยังค้นเจอได้ ข่าวการจับบ่อนพนันผิดกฎหมายในจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น วันที่ 11 มีนาคม 2567 บ่อนใหญ่กลางเมืองนครศรีธรรมราช จับนักพนันได้กว่า 200 คน วันที่ 19 มีนาคม 2567 บ่อนบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี รวบนักพนันได้ถึง 328 คน และล่าสุดข่าวเช้ารับวันจักรี วันที่ 6 เมษายน 2567 มีการทลายบ่อนกลางเมืองภูเก็ต พบว่าหนึ่งในนักพนันที่จับได้เป็นนายตำรวจระดับสารวัตร สังกัดตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมอยู่ด้วย ข่าวการบุกจับบ่อนการพนันทั้งเล็กและใหญ่มีให้เห็นอย่างต่อเนื่องและเป็นปกติ

เมื่อบ่อนผิดกฎหมายมีเยอะ การเปลี่ยนชื่อจาก”บ่อน” เป็น “กาสิโน” และทำให้ถูกกฎหมายด้วยวิธีการที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังผลักดันอยู่นั้น กำลังเป็นประเด็นที่สังคมจับตา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 สภาผู้แทนราษฎรมีการลงคะแนนเสียง 253 ต่อ 0 รับร่างรายงานศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือกาสิโนถูกกฎหมาย แม้ว่าจะมีการค้านแย้งจากพรรคฝ่ายค้าน ก็เป็นประเด็นเรื่องการควบคุมกำกับ การบำบัดผู้ติดพนันในระยะยาว การจัดหากองทุนบำบัดผู้ติดพนันเท่านั้น แต่ในภาพรวมการโหวตเห็นชอบรายงานการศึกษากาสิโนถูกกฎหมายโดยเสียงคัดค้านเป็น “ศูนย์” คงเป็นตัวชี้วัดให้เห็นแล้วว่า กาสิโนถูกกฎหมายได้รับการสนับสนุนทั้งจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน นี่เท่ากับเป็นการทำให้เรื่องที่ผิดศีลธรรมกลายเป็นเรื่องถูกต้อง ผ่านกระบวนการสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เป็นเรื่องยอมรับได้ เป็นเรื่องปกติ ด้วยเหตุผลที่ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านสนับสนุนด้วยกันคือ “เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ”

พรรคสัมมาธิปไตยมีนโยบาย “สร้างคนดีให้สังคม” สังคมจะดีเมื่อมีคนดีที่มากพอ คนดีในที่นี้ คือ คนดีที่มีชีวิตสุขภาพดี มีสุขภาพแข็งแรง คนดีที่สามารถพึ่งตนเองได้ มีความเสียสละ และสามารถแบ่งปันให้ผู้อื่นด้วยใจที่ผาสุก คนดีที่มีจิตไม่โลภ ไม่อยากได้เงินบาป เงินผิดกฎหมายมาเป็นของตัวเอง คนดีที่ขยันขันแข็ง ทำงานเพื่อส่วนรวม ไม่หลงมัวเมาในอบายมุข คนดีที่ไม่เสนอแก้สิ่งผิดให้เป็นถูกเพียงอ้างว่าทำเพื่อเศรษฐกิจของประเทศ วิธีการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทยนั้นคงไม่ใช่สร้างจากการพนัน แต่ต้องเกิดจากการพัฒนา “คน” ให้เป็น “คนดี” ต่างหาก

“การบริหารประเทศให้เศรษฐกิจดี ไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้นก็ได้ แค่ให้มีรายจ่ายน้อยลง มีของกินของใช้ที่มีประโยชน์ต่อชีวิตอย่างพอเพียง ก็ทำให้เศรษฐกิจมั่นคงได้แล้ว”

ดร. ใจเพชร กล้าจน
หัวหน้าพรรคสัมมาธิปไตย

การสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง คือ รัฐบาลต้องสร้างอาชีพที่ดีมีประโยชน์ อาชีพที่เลี้ยงชีวิตได้จริง เป็นการสร้างปัจจัยสี่ (ข้าว-ผ้า-ยา-บ้าน) ไม่ใช่สร้างอาชีพนักพนันหน้าใหม่ รายได้จากสถานบันเทิงครบวงจร กาสิโนถูกกฎหมาย เป็นเพียงตัวเลขคาดการณ์ว่าอาจจะได้ จะนำมาพัฒนาประเทศ ตัวเลขเหล่านั้นเป็นเพียงตัวเลขวาดฝันที่อาจจะไม่ใช่ตัวเลขในความจริงเลยก็ได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วในหลายประเทศ นอกจากนี้ ประเทศเราจะมีความภาคภูมิใจนักหรือที่จะดูดเอาเงินมาก ๆ มาจากกระเป๋าของผู้คนที่หลงติดการพนัน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยกันเองหรือนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ

อย่ามัวแต่ไปสร้างสังคมที่หลงใหลไปกับความสุขหลอก ๆ จากอบายมุขการพนันเลย คนเราเมื่อหลงมัวเมาในสุขหลอกจะไม่รู้จักสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต ทำให้เสียเวลา แรงงาน ทุนรอน และสุขภาพ คนไทยคงจะหลงลืมไปว่า น้ำใจสำคัญกว่าน้ำเงิน มีน้ำใจมากเท่าไหร่ เสียสละ แบ่งปัน ช่วยเหลือกันมากเท่าไหร่ การใช้น้ำเงินจะน้อยลงเท่านั้น การสร้างคนดีมีน้ำใจเป็นการสร้างเศรษฐกิจที่สมบรูณ์แบบที่สุด มาร่วมกันสร้างคนดีมีน้ำใจให้เป็นเรื่องปกติของสังคมกันเถอะ

จางคลาย
7 เมษายน 2567

เรื่องที่เกี่ยวข้อง