คนส่วนใหญ่ในยุคนี้ไม่เชื่อเรื่องคนดี ไม่ศรัทธาความดี เพราะเขาอาจจะเคยผิดหวังจนเข็ดขยาดเสียแล้วจากคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนดี ที่สำคัญ แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่อาจมั่นใจในตัวเองได้เลยว่าเขาจะสามารถเป็นคนที่ดีจริง ดีแท้ได้อย่างยั่งยืน เขาเองยังไม่สามารถละทิ้งการแสวงหาความสุขส่วนตัวในเรื่องนั้นเรื่องนี้ได้เลย แล้วคนอื่นๆ ที่เขารู้จัก ก็ล้วนแล้วแต่ยังคงแสวงหาความสุขเพื่อตัวเองกันอยู่ทั้งนั้น สุดท้ายคนส่วนใหญ่จึงพากันจำนน ยอมรับว่าไม่มีหรอก “คนดี” มีแต่คนเลวมากกับเลวน้อยเท่านั้นแหละ โดยเฉพาะในหมู่ของนักการเมือง แทบจะไม่มีใครเชื่อว่าใครเป็นคนดีจริงๆ เลยสักคน

ด้วยเหตุนี้ คนส่วนใหญ่ทั้งโลกจึงแก้ปัญหาต่างๆ ในสังคมด้วยการแก้ไขกฎระเบียบ พยายามออกกฎหมาย วางระบบและโครงสร้างต่างๆ ในสังคม เพื่อยับยั้งคนที่เลวมากๆ ให้ทำเลวได้ยากขึ้น และควบคุมคนที่เลวน้อยๆ ไม่ให้เหิมเกริมขึ้นมาเป็นคนเลวมากๆ ได้ แต่ในที่สุด คนที่เลวมากก็จะหาทางเข้ามาเป็นคนควบคุมอำนาจในการบริหารกฎระเบียบต่างๆ เสียเอง ส่วนคนที่เลวน้อยกว่าก็พยายามเจาะหาช่องโหว่ของกฎระเบียบเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์มากขึ้น ปัญหามันจึงวนเวียนอยู่เช่นนี้ แก้กันเท่าไหร่ๆ ก็ไม่จบสิ้นเสียที เพราะ “ปัญหาทั้งหมดในโลกเกิดจากคนโง่กว่ากิเลส” (หมอเขียว บททบทวนธรรมข้อ 37) นั่นเอง

พรรคสัมมาธิปไตยเป็นพรรคการเมืองหน้าใหม่ นำโดย ดร. ใจเพชร กล้าจน หรืออาจารย์หมอเขียว เป็นกลุ่มการเมืองที่ยังคงเชื่อมั่นในความดีงาม มีศรัทธาต่อคนดีที่แท้จริง และมั่นใจว่า “คำตอบอยู่ที่คน” ไม่ใช่ระเบียบกฎเกณฑ์ ดังที่อาจารย์หมอเขียวได้กล่าวไว้ในการบรรยายว่า “ถ้าเราไม่สร้างคนให้เป็นคนดี ก็แก้ปัญหาไม่ได้” (16 ธันวาคม 2566 ฮอมบุญอโศก จังหวัดแพร่) ดังนั้น อาจารย์หมอเขียวและเหล่าจิตอาสาที่เป็นสมาชิกพรรค จึงได้ทุ่มเทเวลา แรงกาย แรงใจ ในการสร้างคนดีให้สังคมมาโดยตลอด อันที่จริงท่านไม่ได้เพิ่งมาทำหลังจากตั้งพรรคการเมืองหรอก แต่ทำมาก่อนแล้ว 30 กว่าปี รวมไปถึงงานที่พ่อครู สมณะโพธิรักษ์ ได้สร้างชุมชนบุญนิยมมาก่อนแล้ว 50 กว่าปีด้วย ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของงานการเมืองที่ยากที่สุดในโลก และผู้ที่จะสามารถทำงานแบบนี้ได้นั้นมีน้อยมาก

คำตอบของปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ “คนดี” ซึ่งไม่ใช่แค่คนที่ทำตามกฎหมายและไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นเท่านั้น แต่เป็นคน “ดีแท้” ตามความหมายที่อาจารย์หมอเขียวเคยกล่าวไว้ คือ “คนที่พึ่งตนในสิ่งที่เป็นประโยชน์และมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น” ได้ (16 ธันวาคม 2566 ฮอมบุญอโศก จังหวัดแพร่) ดังนั้น งานที่พรรคสัมมาธิปไตยทำอยู่ในขณะนี้ก็คืองานสร้างคนให้สามารถพึ่งตนในสิ่งที่เป็นประโยชน์และมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้มากๆ โดยผ่านการจัดกิจกรรมค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรมเป็นหลัก ซึ่งมีการจัดสรรองค์ประกอบให้ผู้เข้าค่ายได้เรียนรู้ฝึกฝนการพึ่งตนเองทุกด้าน ทั้งด้านสุขภาพ กสิกรรม อาหาร และเศรษฐกิจ เป็นต้น

ถึงแม้ว่างานสร้างคนดีให้สังคมของพรรคสัมมาธิปไตยจะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้น้อยกว่างานบริหารงบประมาณหรือบริหารกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่พรรคการเมืองอื่นๆ พยายามทำอยู่ แต่เราคิดว่างานนี้แหละที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองได้จริง แก้ได้อย่างยั่งยืน เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ และเราก็ตระหนักดีว่า งานนี้เป็นงานที่ไม่ง่ายเลย กว่าจะฝึกให้คนเป็นคนดีจริงๆ ได้สักหนึ่งคน ต้องอาศัยพลังความดีของจิตอาสาหลายๆ คนมาร่วมแรงร่วมใจกัน จัดสรรองค์ประกอบให้พี่น้องที่มาเข้าค่ายได้เรียนรู้และปฏิบัติได้จริง เกิดผลกับชีวิตของพี่น้องที่มาเข้าค่ายจริงๆ สามารถพึ่งตนและช่วยผู้อื่นได้มากขึ้นไปเป็นลำดับๆ ดังนั้น อาจารย์หมอเขียวจึงได้กล่าวว่า “สิ่งที่ยากที่สุดในโลก คือสร้างคนให้เป็นคนดี… เป็นการเมืองที่ลึกที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด” และไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ มีบางคนเท่านั้นที่ทำได้ พรรคสัมมาธิปไตยเราได้ทำมาแล้ว และจะพยายามทำต่อไปอย่างเต็มที่ เพราะงานนี้แหละคืองานหลักของเรา

จางคลาย
22 ธันวาคม 2566

เรื่องที่เกี่ยวข้อง