ประชาธิปไตย มาจากคำว่า “ประชา” และ “อธิปไตย” ประชา คือ ประชาชน อธิปไตย คือ อำนาจ พลัง แสนยานุภาพ ความรู้ ความสามารถ ประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่มีคุณค่าประโยชน์อย่างแท้จริง จึงคือ อำนาจ พลัง แสนยานุภาพ ความรู้ ความสามารถ ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

การได้มาซึ่งอำนาจ หรือการใช้อำนาจ ไม่ว่าจะได้หรือใช้อำนาจจากการเลือกตั้ง การปฏิวัติ การแต่งตั้ง การสอบแข่งขัน การชุมนุม การยกให้ หรือด้วยวิธีอื่นใด และไม่ว่าจะเป็นอำนาจระดับใด เช่น ระดับบุคคล ครอบครัว หน่วยงาน ชุมชน สังคม ประเทศชาติ หรือระดับโลก เป็นต้น รวมถึงไม่ว่าจะเป็นการกระจายอำนาจ หรือรวมอำนาจก็ตาม

การได้หรือการใช้อำนาจดังกล่าวนั้น จะไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเลย ถ้าการได้หรือการใช้อำนาจดังกล่าวไม่เป็นประโยชน์สุขต่อประชาชนส่วนรวม แต่ตรงกันข้ามกลับสร้างผลเสีย ทุกข์ โทษ ภัย ความเดือดร้อน ความเลวร้าย ให้กับประชาชนส่วนรวม ลักษณะดังกล่าวนั้น ไม่ใช่ประชาธิปไตยเลย แต่เป็นชั่วช้าธิปไตย เป็นเผด็จการ (การใช้อำนาจข่มเหงรังแกผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม เพื่อสนองความต้องการของตน ครอบครัวของตน พรรคพวกของตน) พฤติกรรมการได้หรือการใช้อำนาจดังกล่าวนั้น เป็นการดำเนินการโดยคนชั่ว คนไม่มีศีลธรรม คนไม่มีความยุติธรรม

ตรงกันข้าม การได้หรือการใช้อำนาจดังกล่าวนั้น จะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ถ้าการได้หรือการใช้อำนาจดังกล่าวนั้น เป็นประโยชน์สุขต่อประชาชนส่วนรวม ไม่สร้างผลเสีย ทุกข์ โทษ ภัย ความเดือดร้อน ความเลวร้าย ต่อประชาชนส่วนรวม ลักษณะดังกล่าวนั้น เป็นประชาธิปไตย ซึ่งพฤติกรรมการได้หรือการใช้อำนาจดังกล่าวนั้น เป็นการดำเนินการโดยคนดี คนมีศีลธรรม คนมีความยุติธรรม

โดยสรุป ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใด รูปแบบใด ระดับใด การได้หรือการใช้อำนาจโดยคนดีเท่านั้น จึงจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนรวม จึงจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ตรงกันข้าม ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใด รูปแบบใด ระดับใด การได้หรือการใช้อำนาจโดยคนชั่วนั้น จะเป็นโทษต่อประชาชนส่วนรวม จึงไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริงเลย แต่เป็นชั่วช้าธิปไตย หรือ เผด็จการอย่างแท้จริงเท่านั้น

เจริญธรรม สำนึกดี มีใจไร้ทุกข์

ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
หัวหน้าพรรคสัมมาธิปไตย
4 มิถุนายน 2567
ณ บวรราชธานีอโศก