อาจารย์จะตอบแค่สอง สามประเด็นง่าย ๆ พี่น้องว่า คนมีธรรมะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี เป็นคนดีนะ พี่น้องว่า การเมืองควรจะให้คนดีหรือคนไม่ดีไปทำ ให้คนดีไปทำ คนดีไปทำการเมือง กับคนชั่วไปทำการเมืองอะไรดีกว่า ก็นั่นแหละ คนดีไปทำการเมือง ก็ดีกว่าคนชั่วไปทำการเมือง ทำไมคนมีธรรมะ คนปฏิบัติธรรมจึงต้องไปทำการเมือง ทำไมคนมีธรรมะจึงต้องไปทำการเมือง ก็คำตอบเป็นอย่างนี้แหละ ทำไมคนมีธรรมะต้องไปทำการเมือง เพราะว่าคนมีธรรมะเป็นคนดี คนไม่มีธรรมะเป็นคนไม่ดี แล้วการเมืองควรจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดีไปทำถึงจะดี ก็ต้องเป็นคนดีไปทำ มันถึงจะดีต่อบ้านต่อเมือง ก็นี่แหละเหตุผล
พี่น้องทั้งหลายอยากได้คนดี หรือคนไม่ดีไปทำการเมือง อยากได้คนดีใช่ไหม? อยากได้คนดีก็ต้องเลือกคนดี ก็ต้องสนับสนุนคนมีธรรมะสิ ต้องไปเลือก ไปสนับสนุนคนมีธรรมะให้ไปทำการเมือง ทำไมที่ผ่าน ๆ มา ทำไมไปส่งเสริมคนไม่ดีไปทำการเมือง เพราะคนส่วนใหญ่ โอ๊ย! อย่าไปยุ่งเลยการเมือง มีแต่คนไม่ดี เอ้า! ก็แปลว่าปล่อยให้แต่คนไม่ดีไปทำการเมือง ก็เท่ากับปล่อยคนไม่ดีไปทำการเมือง เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่ไปทำการเมืองกัน ที่เราเคยพบเคยเห็น มีไหม คนไม่ดี มีไหม มีนะ แล้วเขาโกงบ้านโกงเมืองไหม โกง แล้วเขาข่มเหงคนอื่นไหม ข่มเหง เขาเอาเปรียบคนอื่นไหม เอาเปรียบ เขาแย่งชิงกันไหม แย่งชิงกัน เบียดเบียนกัน มันดีไหม ไม่ดีเลย ถ้าคนไม่ดีไปทำการเมืองมันไม่ดี คนดีสิ คนมีธรรมะสิ คนปฏิบัติธรรม คนมีธรรมะสิ ไปทำการเมืองถึงจะดี ก็เป็นอย่างนั้นนะ ต้องเป็นคนดีไปทำการเมือง การเมืองถึงจะดี แล้วประชาชนถึงจะได้รับประโยชน์ สังคมประเทศชาติจึงจะได้รับประโยชน์ เพราะคนดีท่านจะไม่คด ไม่โกง ท่านจะไม่เอาเปรียบใคร ไม่ทำร้ายใคร ไม่ข่มเหงใคร แล้วท่านก็จะทำประโยชน์ให้กับผู้คน ให้กับผองชนด้วยใจบริสุทธิ์
ดังนั้น สภาพการเมืองที่เป็นอยู่โดยทั่วไป ขาดแคลนคนดี ในเมืองสภาพการเมืองโดยทั่วไปขาดแคลนคนดี คนดีจึงต้องเสียสละไปทำ เพราะคนดีไม่อยากได้อะไร คนดีนั่นอยากให้ผู้คนได้รับความอยู่เย็นเป็นสุขเท่านั้น ได้รับความอยู่รอดปลอดภัย ได้รับความอยู่เย็นเป็นสุข ได้รับประโยชน์เท่านั้น คนดีที่ลดกิเลสได้จริง คนดีที่ลดกิเลสได้จริง มีศีลจริง มีศีล สมาธิ ปัญญาจริง ลดกิเลสได้จริง ไม่คดไม่โกงจริง มีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นจริง นี่แหละ เป็นคนดีที่เราควรสนับสนุนให้ไปทำการเมือง ควรจะไปเป็นนักการเมือง ควรจะเป็นพรรคการเมือง นี่แหละ
เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองของเรา จึงคัดแต่คนดีมีศีลมีธรรมเท่านั้น มาสานพลังกัน เสียสละเพื่อส่วนรวม แม้แต่สมาชิกยังต้องมีความดีนะ สมาชิกของพรรคที่จะมาร่วมกัน ยังต้องมีความดี อย่างน้อยต้อง พากเพียร ตั้งใจ ลดอบายมุข 1 เรื่องก็เอา ลดได้หลายเรื่องก็ยิ่งดี อบายมุขคือสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่เป็นโทษ เป็นภัย ต่อตนเอง ต่อผู้อื่นที่มันรุนแรง เช่น เหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติดมัวเมา การพนัน อย่างนี้ เป็นต้น ก็ต้องลด ละ เลิก เท่าที่ทำได้ หรือแม้แต่พฤติกรรมที่มันเดือดร้อน ต่อตนเองและผู้อื่นที่มันชัดเจน เรารู้แล้ว โอ้! อันนี้เดือดร้อนแรงนะ เราลด ละ เลิกนี่ เราก็ลดอบายมุข ลดก็ได้ ยังเลิกไม่ได้ ก็ลด ก็เอา เช่น เป็นคนใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยมากเกินไป เราตรวจดูแล้วเรายังใช้เงินฟุ่มเฟือยมากเกินไป ก็เป็นโทษต่อตนเอง ต่อครอบครัว เราก็ตั้งใจลดลง เราจะลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายในสิ่งที่มันไม่จำเป็นต่อชีวิต คือมันเป็นโทษต่อชีวิต
เราตั้งใจจะลดลงก็สมัครเป็นสมาชิกพรรคได้ แม้ยังเลิกไม่ได้ ยังชอบอันโน้นอันนี้ ชอบซื้อชอบอะไรอยู่ แต่พยายามลดลงก็ได้ เป็นคนประหยัดมากขึ้น อย่างนี้เป็นต้น ถ้าได้ก็เป็นสมาชิกได้ เป็นคนขี้โมโหมาก ๆ ก็พยายาม ลดความโมโหลงก็ได้ เป็นคนขี้บ่น มาก ๆ คนรำคาญไปหมดเลย ก็ลดความขี้บ่นลงก็ได้ อะไรก็ได้ที่เราเห็นว่ามันเป็นโทษเป็นภัย มันไม่ดีต่อตนเอง คนอื่น สัตว์อื่น เราก็พยายามลดลง แค่พยายามลดก็เป็นสมาชิกพรรคสัมมาธิปไตยได้แล้ว เป็นพรรคที่จะรวมพลคนดี มาทำสิ่งดี ๆ ร่วมกัน